SPORT TOURISM THAILAND

เรามาทำความรู้จักกับจังหวัดบุรีรัมย์กันว่านอกจากเราจะเดินทางไปดูรายการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกอย่าง WSBK หรือ MOTOGP แล้ว เราจะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรทำเพราะที่นั่นมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ครอบคัวได้สนุกสนานกับการเดินทาง

สนามช้างฯ เปิดเส้นทาง “สปอร์ตทัวริสซึ่ม” จ.บุรีรัมย์

12.การแข่งขันเอเชีย โรด เรซซิ่ง (1)
 
“สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ปิ๊งไอเดียเปิดเส้นทาง “สปอร์ตทัวริสซึ่ม” จ.บุรีรัมย์ ผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ต ล่าสุดชวนคอความเร็วลุ้นเกาะติดขอบสนามชมการแข่งขัน FIM Asia Road Racing Championship2017 (ARRC) สนามที่ 6 ศึกชิงจ้าวความเร็วที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวสัมผัสแหล่งอารยธรรมท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน และศิลปวัฒนธรรมอันงดงาม
คุณตนัยศิริ3
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
12.การแข่งขันเอเชีย โรด เรซซิ่ง (3)
 
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย FIM Asia Road Racing Championship 2017 (ARRC) ศึกชิงจ้าวความเร็วที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สนามสุดท้ายของฤดูกาล ในระหว่างวันที่ 2-3 ธันวาคม 2560 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ที่ผ่านมานั้น ทางสนามช้างฯ ได้เปิดเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับคอกีฬามอเตอร์สปอร์ตและประชาชนทั่วไปที่มาชมและเชียร์การแข่งขันท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสัมผัสศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น อาหารพื้นบ้าน และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย ในรูปแบบของ “สปอร์ตทัวริสซึ่ม”
คุณตนัยศิริ2
 
“การท่องเที่ยวในรูปแบบของสปอร์ตทัวริสซึ่ม จะได้อรรถรสที่แตกต่าง ซึ่งนอกจากการได้ชมและเชียร์การแข่งขันศึกชิงจ้าวความเร็วจากนักบิดทั่วเอเชียกว่า 200 ชีวิต รวมทั้งนักบิดซุปเปอร์สตาร์ชาวไทยแล้ว หลังจบการแข่งขันบรรดาคอมอเตอร์สปอร์ตยังสามารถไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ หรือจะไปสัมผัสอาหารพื้นบ้าน วัดวาอาราม ถือเป็นการพักผ่อนอีกรูปแบบในการมาเยือนบุรีรัมย์ครั้งนี้ด้วย”
3.พระสุภัทรบพิตร ณ เขากระโดง1.ศาลหลักเมือง4.ปาท่องโก๋ชุมพล (3)4.ปาท่องโก๋ชุมพล (2)4.ปาท่องโก๋ชุมพล (1)9.วนอุทยานเขากระโดง2.ศาลปึงเถ่ากงม่า
 
เริ่มต้นจากยามเช้าตรู่ ร้าน “ปาท่องโก๋ชุมพล” อาหารเช้าแบบคนบุรีรัมย์ จิบกาแฟในบรรยากาศแบบบ้านๆแกล้มกับไข่ลวก สำหรับร้านนี้ถ้าตื่นสายไปช้าหมดอดแน่นอน เพราะทำวันละแค่ 8 กะละมังใหญ่เท่านั้น และอย่าหงุดหงิดถ้าต้องไปยืนรอต่อแถว เพราะปาท่องโก๋เจ้านี้ขายดีจริงๆ ทั้งยังกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน พอสายๆหน่อยก็หมดแล้ว
5.ถนนเซราะกราว8.ป้านง6.บ้านสวนฟรุ๊ตการ์เด้น อ.ลำปลายมาศ7.ดินดิบคาเฟ่14.พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1
 
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่นักท่องเที่ยวมาแล้วต้องไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น “ศาลหลักเมือง บุรีรัมย์” และศาลปึงเถ่ากงม่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวบุรีรัมย์เคารพสักการบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ “พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูปคู่เมือง ได้แก่ “พระสุภัทรบพิตร เขากระโดง”
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต้องไม่พลาดไป “ถนนคนเดิน เซราะกราว” แหล่งรวมอัตลักษณ์ของชาวบุรีรัมย์ เปิดในช่วงเย็นยันหัวค่ำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ที่นี่จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่นิยมเลือกหาของพื้นบ้านเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไป
10.สนามไอโมบาย
 
นอกจากนี้ยังมี”สนามไอโมบาย สเตเดียม” สนามฟุตบอลที่สวยงามและได้มาตรฐานระดับโลก เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ได้ทุกวันยกเว้นวันที่ทีมมีแข่งขัน ต้องบอกว่าสนามนี้ทั้งสวยงาม ทันสมัย
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ไม่ควรพลาด คือ “บ้านสวนฟรุ๊ตการ์เด้นส์ อ.ลำปลายมาศ” ของอดีตรัฐมนตรี “โสภณ ซารัมย์” ซึ่งยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่9 ภายใต้บรรยากาศที่แสนร่มรื่น มีเมล่อนหวานๆ ที่ปลูกในบุรีรัมย์แต่รสชาติไม่แพ้ต่างประเทศเป็นของขึ้นชื่อ รวมทั้งมะเขือเทศราชินี กล้วยหอมทอง และพืชผักผลไม้ที่ปลูกแบบอินทรีย์ไว้ให้เลือกซื้อเลือกชิมกัน
จากนั้นเอาใจคอกาแฟที่ “ร้านดินดิบคาเฟ่” อ.ลำปลายมาศ ร้านนี้ตกแต่งได้ถูกใจคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ และยังมีข้าวปลาอาหารรสชาติจัดจ้านให้ทานกันด้วย พร้อมๆกับชมการตีหม้อของ “ป้านง” วัย 50 กว่า ที่มีประสบการณ์การตีหม้อมานานกว่า 30 ปี และเคยสาธิตต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาแล้ว
19.BricBoxHotel17.BricBoxHotel16.BricBoxHotel20.BricBoxHotel18.BricBoxHotel
ส่วนที่พักสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต Bric Box Hotel โรงแรมเก๋ๆสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์เก๋ๆติดแทร็ค สนามแข่งรถ ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เอาใจคอความเร็ว สามารถชมการแข่งขันแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียงเปิดประตูหน้าห้องพักมา จะได้ชมการแข่งรถจากหน้าประตูห้อง น่าตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบ
11.สนามช้างฯ (1)15.รถรางชมเมือง
22814091_1646166378796992_9114858031785318541_n
MOTOWN BISTRO
image120150303_4695_1425349904_259391
LIVELY MARKET
10444361_882572661773274_8035207629950478703_n22382515_1626342414062958_225608512391839305_o541676_509588029071741_645733369_n
NEKROMANTIK KRAFT BEER
Buriram-Bar-750x563
SPEED MUSIC HALL

Yamaha Future Garage: @The 45th Tokyo Motor Show 2017

Press-Conference_035Press-Conference_038Press-Conference_022Press-Conference_14Press-Conference_11Press-Conference_037

Yamaha Future Garage : Resonate the Future
ยามาฮ่าโรงรถแห่งอนาคต : เสียงกังวานแห่งอนาคต
The 45th Tokyo Motor Show 2017

บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำสุดยอดเทคโนโลยีของยามาฮ่ามาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ในมหกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่าง “โตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 45” (The 45th Tokyo Motor Show 2017) โดยครั้งนี้ยามาฮ่าเนรมิตบูธสุดล้ำสมัย ภายใต้แนวคิด “ยามาฮ่าโรงรถแห่งอนาคต : เสียงกังวานแห่งอนาคต” (Yamaha Future Garage : Resonate the Future) พร้อมเปิดตัวโมเดลใหม่ครั้งแรกในโลกพร้อมกันถึง 6 รุ่น เพื่อให้สาวกยามาฮ่าได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม ถึง วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์ประชุมเดอะโตเกียวบิ๊กไซท์ (The Tokyo Big Sight) โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ยามาฮ่ายกทัพผลิตภัณฑ์ยานยนต์มาจัดแสดงด้วยกันมากกว่า 20 รุ่น โดยมีการเปิดตัวโมเดลใหม่แบบเวิลด์พรีเมียร์ครั้งแรกของโลกในงานนี้ด้วยกันถึง 6 รุ่น และมีอีก 4 รุ่นที่จะทำการเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่น นอกจากจะนำรถจักรยานยนต์มาจัดแสดงหลากหลายโมเดลแล้ว ยังรวมไปถึงจักรยานพลังงานไฟฟ้า (Electrically power-assisted bicycles), สกู๊ตเตอร์ (Scooters), รถขับเคลื่อนแบบ Leaning Multi-Wheelers (LMW), และรถต้นแบบดีไซน์คอนเซ็ปต์อื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงสุดยอดเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของยามาฮ่าได้อย่างชัดเจน

MOTOROiD

โมโตรอยด์ (รถต้นแบบเรเฟอเรนซ์วิฮีเคิล) MOTOROiD (Reference vehicle)

StarVenture

Star Venture (Production vehicle) สตาร์เวนเชอร์ (รถผลิตเพื่อจัดจำหน่าย)

TRICITY155ABS

YAMAHA TRICITY155 ABS

XMAX-ABS

YAMAHA XMAX ABS

XSR700ABS

YAMAHA XSR700 ABS

MT-09ABS

YAMAHA MT-09 ABS

MT-10ABS

YAMAHA MT-10

YZ450F

YAMAHA YZ450F

YZF-R6

YAMAHA YZF-R6

YZR-M1

YAMAHA YZR-M1

TMAX530DX-ABS

YAMAHA TMAX530 DX ABS

YPJ-EC_1YPJ-ER_1YPJ-TC_1

YPJ-XC (รถต้นแบบเรเฟอเรนซ์วิฮีเคิล) / YPJ-XC (Reference vehicle)

TRITOWN

TRITOWN (Reference vehicle) ทริทาวน์ (รถต้นแบบเรเฟอเรนซ์วิฮีเคิล)

NIKEN

NIKEN (Reference vehicle) นิเคน (รถต้นแบบเรเฟอเรนซ์วิฮีเคิล)

MWC-4

MWC-4 (Reference vehicle) MWC-4 (รถต้นแบบเรเฟอเรนซ์วิฮีเคิล)

 

นอกจากนั้นภายในบูธ “ยามาฮ่าโรงรถแห่งอนาคต : เสียงกังวานแห่งอนาคต” ยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีของยามาฮ่าอันได้แก่ ยานยนต์ทดลอง (Experimental machine) เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ร่วมค้นหารูปแบบการขับเคลื่อน โดยผู้ขับขี่จะประสานเป็นหนึ่งเดียวกับพาหนะเพื่อสร้างการขับเคลื่อนตามสไตล์ของแต่ละบุคคล พร้อมกันนี้ยามาฮ่ายังได้จัดแสดงหุ่นยนต์ขับขี่มอเตอร์ไซค์อัตโนมัติหรือ “หุ่นฮิวแมนนอยด์” (an autonomous motorcycle-riding humanoid robot) ให้ชมอีกด้วย ซึ่งผู้เข้าชมบูธจะได้สัมผัสประสบการณ์ “Ever-growing world of personal mobility” หรือ “การเติบโตอย่างไม่สิ้นสุดแห่งนวัตกรรมการขับเคลื่อนส่วนบุคคล” ที่เป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่าที่ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรมการขับเคลื่อนยานยนต์ขนาดเล็กอย่างแท้จริง

Press-Conference_026Press-Conference_025Press-Conference_024Press-Conference_023Press-Conference_021Press-Conference_020Press-Conference_019Press-Conference_034Press-Conference_018Press-Conference_033Press-Conference_030Press-Conference_032Press-Conference_031Press-Conference_029Press-Conference_027Press-Conference_028Press-Conference_13Press-Conference_036Press-Conference_02Press-Conference_05

BMW R1200GS VS S1000XR @BMW MOTORCYCLE CLUB TH MEETING

IMG_4453

IMG_4448

IMG_4520

 

บีเอ็ม ดับเบิ้ลยู มอเตอร์ไซเคิ่ล คลับ ประเทศไทย ถือเป็นคลับที่แข็งแรงมากๆ คลับหนึ่งในประเทศไทย มีสมาชิกหลายร้อยคน และมีความชัดเจนในการบริหารจัดการทำให้การพบปะกันของสมาชิกในแต่ละครั้ง มักจะมีสมาชิกไปร่วมงานกันอย่างคึกคัก

การร่วมงานนี้ก็ต้องขี่ BMW Motorrad ไปสิครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง!

 

IMG_5333

Rubbers Magazine ได้โอกาสนำ BMW R1200GS และ S1000XR รถมอเตอร์ไซค์คลาส 1,200 และ 1,000 ซีซี ทั้งสองโมเดลที่แม้จะเป็นรถสไตล์ทัวริ่งแต่ก็เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต่างกันมากๆ มาลองระยะทางไกลดู โดยผมเองที่สูงเพียง 160 ซม เท่านั้น

 

IMG_5574IMG_5294

IMG_4787

IMG_4795IMG_4771

BMW R1200GS

โดยปรกติก็ไม่คิดว่าจะควบคุม เจ้ารถ แอดเวนเจอร์คันโตนี้ได้แต่ผิดคาด เพราะ เริ่มต้นที่การออกแบบให้มี Weight Distribution ที่ ดีมากๆ ทำให้การยกรถขึ้นตั้งและเตะขาตั้งขึ้นลงด้วยรองเท้า Adventure ตัวเต็มจาก Touratech  เป็นไปได้โดยง่าย

IMG_4866IMG_4889

IMG_4750IMG_4776

ระยะการจัดทรง ท่านั่ง พักเท้า แฮนด์บาร์ อยู่ในระดับที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไร ที่สำคัญ ไม่ว่าจะสูงกว่า 180 ซม หรือ 160 ซม สามารถใช้ได้ เรียกว่า BMW Motorrad ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีสรีระต่างกัน

ถ่ายรูปออกมาดูสมดุลย์กันดีทีเดียว

IMG_4947IMG_4921IMG_4745IMG_4742

หล่อ!

ระบบไฟฟ้า ให้มาครับเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบเซฟตี้ Traction Control ABS หรือ Riding Modes สิ่งเหล่านี้ แทบจะไม่ต้องพูดถึงอีกต่อไปเพราะมันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปเรียบร้อยแล้ว

เครื่องยนต์ที่นุ่มนวลชวนหลับ เป็นสิ่งที่หลายคนบอก และอาจมองว่าน่าเบื่อ

แต่ผมไม่มองว่าแบบนั้นนะ

ผมมองว่า BMW R1200GS ทำรถมาเพื่ออะไร เขาทำมาเพื่อให้พาคุณฝ่าฟันอุปสรรคบนท้องถนนที่มีสภาพแปรปรวนไปให้ได้ ใหนจะทางเรียบ ทางฝุ่น หินกอง ทรายร่วน ดินเละ การมีเครื่องยนต์ที่จัดจ้านจะทำให้คุณผ่านมันไปได้ยาก BMW R1200GS จึงออกแบบทุกอย่างมาให้มีเบสิคที่ดีเลิศ

IMG_5697

แต่… ไม่ได้หมายความว่าคุณเกรียนไม่ได้ หากฝีมือคุณมี มันทำอะไรได้อีกเยอะแบบคาดไม่ถึง

ใช้ R1200GS กว่า 400 กิโลเมตรครั้งนี้ บอกได้เลยว่า “วันหนึ่งคุณต้องมี”

IMG_4753เข็นง่ายมาก

ผมนำไปถ่ายรูปบนทางลูกรังและต้องจอดเข็นรถ กลับรถไปมา มัน “เชื่องมาก” แม้น้ำหนักรถจะเยอะแต่เวลาเข็นกลับเบามากๆ

แน่นอนว่า R1200GS พูดได้เต็มปากไม่อวยใดๆ ทั้งสิ้น ว่า “ดีงาม” เหมาะกับการท่องเที่ยวไปในทุกสถานที่

IMG_5237

IMG_5057IMG_5146

BMW S1000XR

สุดหล่อคันนี้ นำมาลองขี่ด้วยและตั้งคำถามว่าระหว่าง  S1000XR และ R1200GS คุณจะเลืกใคร

บอกได้ง่ายๆ ว่า มันเลือกเจ้าของ

รถซิ่งชัดๆ!

IMG_5107IMG_5105

S1000XS มันคือรถสนามแข่งในคราบของการใช้ออกทริป

เครื่องยนต์ 4 สูบเปล่งเสียงคำรามลั่นเหมือนคุณกำลังควบ  S1000RR ในสนามช้างฯ ฉันไดฉันนั้น เพราะฉะนั้น S1000XR จึงเหมาะสำหรับสายสปอร์ต โดยแท้ที่สนุกกับอารมณ์แบบนี้ เท่านั้น ด้วยการลากรอบไปสุดๆ เกินหมื่นรอบก่อนสับเกียร์ด้วยระบบ Quick Shifter ที่ให้มาด้วย

แค่นี้ก็พอรู้ว่ารถทัวริ่งอะไรฟระ ให้ระบบเกียร์แบบรถแข่งที่ไม่ต้องบีบคลัทช์มาด้วย

มีกระเป๋าข้างและหลังครบครัน พร้อมไปยาวๆ ได้ แต่ไม่ชอบไปที่เปียกๆ เละๆ เท่าไหร่

บาล๊านซ์ดี ไม่แพ้ R1200GS ความสูงเบาะพอๆ กัน และใช้ได้ทั้งคนเตี๊ยคนสูง

14633593_10154287782211622_5627124803313121307_oความสูง 190 ซม และ 160 ซม เมื่อคร่อม S1000XR มันดูไม่ต่างกันมาก

14633509_10154287782311622_1347419550482173190_oในสนามแข่ง แรงได้ใจ

14692059_10154287782451622_4846461237899855930_o14712708_10154287782476622_5062439780095418400_o14608938_10154287783136622_394227235978314965_o

ผมพามันลงสนามช้างฯ มาแล้ว บอกได้เลยว่าเริ่ดมาก

IMG_5365

บทสรุป

ถ้าจะให้เลือก หนึ่งในสองคันนี้

บอกตรงๆ เลือกไม่ถูก ใครเลือกคันใหน บอกด้วยก็แล้วกันครับ ^^

 

SPECIAL THANKS

ชุดทัวริ่ง Touratech รุ่น Companero และ หมวกกันน๊อก รุ่น Aventuro จาก TOURATECH THAILAND X TOURATECH TRAVEL EVENT 2017

https://www.touratech.co.th/touratech-travelevent2017/

https://www.touratech.co.th

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://bmw-motorrad.co.th/th/en/bike/enduro/2012/r1200gs/r1200gs_overview.html

http://bmw-motorrad.co.th/th/en/bike/adventure/s1000xr/s1000xr_overview.html

 

 

Words: Cap ‘P’

Photos by Mc Suppha-riksh Phattrasitthichoke for Rubbers Magazine

 

ภาพกิจกรรมของ BMW Motorcycle Club Thai;and

 

THE DISTINGUISHED GENTLEMAN’S RIDE CHIANG MAI 2017

22218435_1135104513301025_3922060767245176759_o

Rubbers Magazine ได้รับเกียยรติให้เข้าร่วมงาน “The Distinguished Gentleman’s Ride 2017” ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดย “Triumph Chiangmai” เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา

22135398_1134673476677462_1386169834752718808_o

22135480_1134612270016916_379095666740574394_o.jpg

22135639_1134612116683598_4405199324157419986_o

22181470_1135102919967851_6719174867264486332_o

POP_1147R.jpg

ปรากกฎการณ์รวมตัวกันของ :”สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีนักบิด” ที่แต่งกายใส่สูท ออกมาขี่รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกไปบนท้องถนน เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักและหาเงินทุนช่วยเหลือหรือสนันสนุนสถาบันการวิจัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และการรณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตาย ตลอดจนโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับเพศชาย ไปพร้อมกับอีกกว่า 70,000 คน จาก 600 เมือง ครอบคลุม 95 ประเทศทั่วโลก ด้วยการขี่รถคู่ใจมาร่วมแสดงออกให้จังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศไทยให้ได้รับรู้ถึงแรงสนับสนุนจากชาวสองล้อ ซึ่งมีสมาชิกลงทะเบียน 200 คันแต่จำนวนที่เข้าร่วมจริงมากกว่า 300 คัน โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่นี้

พวกเขาตั้งเป้ายอดเงินบริจาคทั่วโลกรวมกัน 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 165 ล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานเช่นกัน โดยได้จัดขึ้นทั้งใน กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น หาดใหญ่ และภูเก็ต  ซึ่งคาดว่าจะมีคนร่วมงานในประเทศไทยรวมกันมากกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ

งาน “เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์”  (The Distinguished Gentleman’s Ride) เป็นกิจกรรมการกุศลระดับโลกที่รณรงค์เพื่อสุขภาพผู้ชายโดยเฉพาะ มีจุดเริ่มต้นในปี 2012 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของนักขับขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยการแต่งกายใส่สูทสุดเนี้ยบพร้อมขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกออกมาโลดแล่นบนท้องถนน พร้อมรณรงค์ให้ผู้คนและสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และร่วมบริจาคเงิน เพื่อนำไปช่วยเหลือสนับสนุนมูลนิธิหรือกองทุนที่วิจัยเรื่องโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก การรณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตาย ตลอดจนโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับเพศชายซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดงานในหลายๆ ปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง  ด้วยเหตุนี้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสัญชาติอังกฤษ ได้มองเห็นถึงโอกาสอันดีที่จะได้นำเสนอเรื่องราวของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งช่วยสะท้อนให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่แก่ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในสายตาคนทั่วไป จึงได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักและให้การสนับสนุนงานเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

22218448_1135635819914561_240353377928110471_o22180134_1135165636628246_5611901647259454792_o22254741_1135165569961586_6465367902441316847_o22136989_1135155909962552_5738859191049692662_o22180132_1135165419961601_3093493183747834635_o22218261_1135165613294915_2532216959898711417_o22218576_1135155689962574_6588843035844139569_o22136941_1135156386629171_1555568817634429697_o20229878_1092770547534422_2865241038201441341_o22135504_1134614363350040_7091789169013101157_o22180005_1134614530016690_1384527321390846108_o22179691_1134613800016763_1873074042007804090_o22135644_1134614223350054_804812931221884202_o20615755_1134604126684397_7260157483599472555_o22181560_1134612006683609_4829753769823742947_o22135639_1134612116683598_4405199324157419986_o22104695_1134612410016902_376860183087645315_o22135368_1134612100016933_8889382512046470185_o22137240_1134612963350180_670705295549153281_o22137072_1134616216683188_2513654393541477603_o22181423_1135102586634551_4356502251276009318_o22219699_1134652506679559_8321640133165372749_o22254978_1134652423346234_3083949927566935376_o22135635_1134652620012881_5482704232733022129_o22219730_1134652960012847_430409665090122715_o22137098_1134652316679578_404059350563735523_o22137047_1134653076679502_4492713666663669201_o22135333_1134652823346194_1531514891447176936_o22181535_1134656740012469_4875581533905868908_o22181629_1134670803344396_5549425077682208968_o22135725_1134672283344248_4471277971290558742_o 

เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 โดยมอเตอร์ไซค์ของ ไทรอัมพ์ มีจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศ และมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 750 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร้ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 60,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ

22136911_1135103943301082_4200273887254339441_o22136899_1135103083301168_7146808711542639810_o21752500_1135102416634568_1565563908524754562_o22104729_1135095173301959_78159852002397713_o22219623_1135094503302026_3986542177446133707_o22218498_1135095156635294_3451249537425471469_o

 

1-257

SPEED & STYLE, ALL NEW HONDA CB150R

22424532_1563178860407564_5736234511439364688_o

1508918275424

21557150_10214459372617645_2053357144_o

SPEED & STYLE ทำได้หลายอย่าง ในร่างเดียว
ALL NEW HONDA CB150R

หลังจากเปิดตัวไปไม่นานและได้มีการทดสอบการขับขี่ Honda CB150R ที่สนามทดสอบ Honda R&D Proving Ground ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่ถือได้ว่าเป็นสนามทดสอบที่ดีที่สุดของเอเซียอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้

22812605_1575491755842941_858659654_o

22790654_1575498302508953_1197070677_o

1508918274144

โดยรวมในเรื่องของเพอร์ฟอร์แมนซ์ของ CB150R นั้นแน่นอน ว่าสเปคที่ให้มาครั้งนี้ทำเอาวงการสะเทือนเพราะนอกจากเครื่องยนต์ใหม่หมด DOHC 4 valve 1-cylinder 16 แรงม้า ระบายความร้อนด้วยน้ำ แยกไอดี – ไอเสีย แรงม้าสูงสุดที่ 9,500 รอบ/นาที หลักๆ คือ ฝาสูบใหม่ กระเดื่องวาล์วใหม่ ลูกสูบและเสื้อสูบใหม่ เพลาข้อเหวี่ยงใหม่ ผ้าคลัทช์ใหม่ อัตราทดขั้นสุดท้ายใหม่ 47/15
ส่วนเฟรม ใช้เทคโนโลยีเดียวกับการออกแบบรถแข่งโมโตจีพี รวมมวลมาไว้ที่จุดศูนย์ถ่วง สามารถลดแรงที่ส่งมาถึงเฟรมหลักได้ ให้การควบคุมที่เป็นอิสระมากขึ้น สามารถลดพื้นผิวที่จะต้องใช้รองรับแรงจากภายนอกได้ มีให้จุดศูนย์กลางการบิดอยู่ตำ่ลง ซึ่งจะทำให้พื้นผิวสัมผัสมีขนาดน้อยลงและการควบคุมรถมีความมั่นคงมากขึ้น รวมน้ำหนักไว้ที่จุดศูนย์กลางตัวรถตรงตาแหน่งศรีษะผู้ขับขี่ทำให้ง่ายในการควบคุมรถ และรัศมีวงเลี้ยวแคบที่สุด 2.2 เมตร สวิงอาร์มออกแบบใหม่ใช้เหล็กมวลเบา ทาให้น้าหนักเบา แข็งแรง

ถ้าคุณคิดว่านี่คือสุดแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ใช่ ยังมีไฮไลท์มาให้อีกหนึ่งชุดเต็ม

22790793_1575498339175616_1379637118_o

IMG_20171024_103258_872

Screen Shot 2560-10-25 at 3.18.09 PM22366304_1563179020407548_3358021595792845058_n-1
HIGHLIGHT กับของที่ให้มา เรียกว่าสเปคเทพเลยก็ว่าได้
1. โช้กอัพ อัพไซด์ดาวนด์ 41 มิลลิเมตร ➔ นุ่มนวล ทรงตัวดี ขนาดใหญ่ที่สุดในรถสปอร์ตขนาด 150 ซีซี ขนาดเท่ารถ Big Bike สไตล์แอดเวนเจอร์สายลุย X-ADV750 สมบุกสมบัน รับแรงกระแทกได้ดี
ทรงตัวดีทุกสภาพการขับขี่ แข็งแรงสมบุกสมบัน
2. เบรค: ครั้งแรกของรถสปอร์ท 150 ซีซี คาล์ลิปเปอร์เบรกแบบ 4 พอต จานเบรกแบบลอยตัว ขนาด 296 มม.เทคโนโลยีสนามแข่งแบบเดียวกับ Africa Twin ABS + G Sensor ➔ เทคโนโลยีระบบเบรกความปลอดภัยสูงสุดจากรถ Big Bike CBR1000RR
•ABS เบรกล้อใม่ล๊อค
•G- sensor เบรกกะทันแล้วท้ายไม่ยก
•G- sensor เบรกกะทันหันแล้วท้ายไม่ปัด
3. Fat Handlebar ➔ แฮนด์อ้วนแบบ Big Bike สไตล์แอดเวนเจอร์สายลุยอย่าง Africa Twin และ X-ADV750
4. เกียร์โยงแบบ Pillow Ball
5. พักเท้าหลังอลูมิเนียม แบบเดียวกับ CBR1000RR
6. New Full LCD Multifunction Meter เรือนไมล์ LCD พร้อมฟังก์ชั่นจัดเต็ม อันนี้ขอใส่รายละเอียดหน่อย
•ไฟเตือนการเปลี่ยนกียร์ Shift Lighter
•ไฟบอกตาแหน่งเกียร์ทุกเกียร์ N-1-2-3-4-5-6
•โหมดนาฬิกาจับเวลาในขณะเดินทาง ใน Trip A , Trip B
•มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แสดงค่าแบบหน่วงค่ารอบสูงสุด Peak Hold
•มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แสดงค่าแบบมาตรฐาน
•หลอดไฟเตือนระดับน้ามันเชื้อเพลิงต่า
•มาตรวัดความเร็วเฉลี่ย
•มาตรวัดอัตราการกินน้ามันฯแบบเรียวไทม์
•มาตรวัดการกินน้ามันฯแบบเฉลี่ย
•มาตรวัดการใช้น้ามันไปแล้ว
•โหมดการปรับตั้งค่าความสว่างของหน้าปัดเรือนไมล์ ได้ 5 ระดับ
•มาตรวัดความเร็ว หน่วยกิโลเมตร/ชั่วโมง Km/h
•มาตรวัดระยะทางรวม TOTAL , Trip A , Trip B
•นาฬิกาบอกเวลาแบบดิจิตรอล (12 AM , PM )
•มาตรวัดระดับน้ามันเชื้อเพลิง

22539968_10208445503770051_2667189920206540856_n

22790677_1575498319175618_1864857633_o

22790656_1575498349175615_531998136_o

22790529_1575498305842286_407338566_o

SPEED & STYLE
ฟีลลิ่งในการขับขี่นั้นบอกได้ว่า ชัดเจนและดีทีเดียว เราได้ลองทั้งในสนามและการขับขี่ในเมือง แน่นอนว่าในสนามทางตรงยาวๆ เราอาจคิดว่ามันเอื่อยๆ เพราะอย่าลืมว่าเครื่องยนต์เพียง 150CC นะ ก็ไม่แปลกที่จะพาเขาไปสนามที่มีความยาวทางตรงเทียบเท่าสนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ แต่พอเรานำ CB150R มาใช้ในชัวิตประจำวันแล้ว ความชัดเจนทุกอย่างก็ถูกเผยตัวออกมา ความจัดจ้านผสมความนุ่มนวลมีให้เห็น ความแรงของเครื่องยนต์นั้นแรงกว่าเดิมแน่นอน มี 6 เกียร์ เกียร์ทำงานดี กระชับ ความเร็วสูงสุดทำได้ 135 กม/ชม ค่อนข้างนิ่ง รถไม่มีอาการแกว่ง รู้สึกปลอดภัย ช่วงลางบอกได้คำเดียว ดีเลิศ หน้าตาดูดี พรีเมี่ยม ความเร็วสูงสุดทำได้ 135 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

1508918272762
บทสรุปทั้งหมดทั้งปวงหลังจากที่ทั้งนิตยสาร Rubbers และ Superbike Thailand Edition ได้ทำการทดสอบร่วมกันสรุปได้ว่า Honda CB150R นอกจากจะทำได้ดีในเรื่องของความสนุกในการใช้งาน ทำความเร็วได้ ตอบโจทย์ในเรื่องของ “Speed” ส่วนความหล่อในการใช้งานในชีวิตประจำวันก็ไม่เลว พาออกงานได้ สนุกกับการแต่งตัวไปกับรถได้อย่างไม่เคอะเขินเรียกว่าแต่งตัวได้หลายแนวถ้าจะไปด้วยกัน เพราะฉะนั้น “Style” ก็ดูดีไม่แพ้กัน
“Speed & Style” จึงเป็นสโลแกนที่เหมาะที่สุดแล้ว

#aphonda
#honda
#cb150r
#speedandstyle
#rubbersmagazine
#superbikemagazine
#ravanstudio
Nikkasit Motographer Kup-Thai
Golfy Mongkolmorakot
ReJane Phiromchatpreeya
#motorcycle
#smallpower

TOUR DE JAPAN WITH HONDA CB1100

22459325_10155343016146622_5705261704368373519_o

RIDING HONDA CB1100 IN JAPAN
ขี่รถคนเดียวเที่ยวญี่ปุ่น

หนึ่งในโปรเจคในใจที่ผมอยากไป อยากลอง อยากรู้ คือการไปขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวคนเดียว ถ้าถามว่าพยายามจะสื่ออะไรก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความชอบส่วนตัว

DSC00496-3
ผมขี่รถออกทริปเดินทางคนเดียวมานานแล้ว เพราะมันสันโดษ มีสมาธิ มีความสุข และการไปประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ก็วางแผนหลวมๆ มาร่วมปี เริ่มจากการสะสมไมล์ของสายการบิน การบินไทยและวางวันเดินทางช่วงเดือนตุลาคมที่ตรงกับการแข่งขัน “MotoGP” ที่สนาม TwinRing Motegi ซึ่งเป็นสนามที่ผมชอบมากๆ สนามหนึ่ง

18952817_1813943358933988_6726952268262135694_nTeam Japan Rider

เมื่อได้ตั๋วเครื่องบินแล้วก็ทิ้งมันไว้จนกระทั่งก่อนวันเดินทางเพียงสองเดือนจึงได้เริ่มหาข้อมูลเอง ได้ทีมงานของ Japan Rider และ น้องเอ Wanchat เข้ามาให้คำแนะนำเรื่องเช่ารถและการขับขี่ โดย JapanRider ช่วยติดต่อไปที่ Rental819 ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ได้ความว่าค่าเช่ารถคลาส P5 (1000CC) นั้นราคาค่อนข้างแพง ตกวันละประมาณ 5 พันบาทรวมประกัน ความที่อยากขี่ Honda CB1100RS ตัวใหม่แต่รถที่มีถูกจองไปหมดแล้วจึงได้มาที่โมเดล CB1000 ธรรมดา ซึ่งก็ถือว่ายังเป็นรถในดวงใจอีกรุ่นที่น่าจะทดแทนกันได้

การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นไม่ต้องใช้วีซ่า ใบขับขี่ต้องทำใบขับขี่สากลไป พร้อมนำใบขับขี่ของบ้านเราตัวจริงไปด้วย ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน แต่การจองห้องพักและจ่ายเงินผ่านช่องทางที่ประเทศญี่ปุ่นดูจะไม่ค่อยจะง่ายด้วยระบบของเขา

DSCF3277ทะเลสาบ Kawagushiko

ผมต้องการเดินทางขี่รถมอเตอร์ไค์ไป Izu Skyline กับเส้นทางโค้งเลียบเขาและไปพักค้างคืนที่บริเวณทะเลสาบ คาวาคูจิโกะ ภูเขาไฟฟูจิ การจองที่พักที่ง่าายที่สุดคือจองผ่า Booking.com เพราะระบบการชำระเงินเป็นเงินไทยได้ เมื่อได้ที่พักฟูจิแล้วก็หาที่พักในเมืองซึ่งไม่อยากอยู่ใจกลางเมืองเพราะไม่อยากขี่รถในเมืองโตเกียวด้วยการได้รับข้อมูลมาว่า “ไม่สนุก” ขี่ยาก อึดอัด เชื่อครับ

22366295_10155343335571622_5861506867546512161_nห้องพักที่ Touch Thai Guesthouse เมือง Omiya, Saitama, Tokyo

เลยได้ที่พักที่มีเจ้าของเป็นคนไทยที่ Touch Thai Guest House ที่เมือง โอมิยะ ไซตามะ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการเดินทางครั้งนี้เพราะนอกจากเราจะนัดรับรถเช่าคือเจ้า CB1100 ที่เขาขนมารอที่สาขา ไซตามะ ให้ผมจากสาขาอื่นแล้ว (จ่ายเพิ่มนิดหน่อย) ทำให้การออกเดินทางไปภูเขาไฟฟูจินั้นง่ายขึ้นเพราะขี่อ้อมเมืองไป

มาถึงตรงนี้คุณคิดว่าง่ายใหมครับ ผมก็คิดว่าไม่น่ายาก
ผมคิดผิด มาฟังกันวันต่อวันเลยดีกว่าครับ

Screen Shot 2560-10-25 at 1.46.53 PMเส้นทางที่ไปครั้งนี้

22365427_10155339670146622_8376082212845727221_n

Airport Limousine Bus ราคา 1,500 เยน หรือ 500 บาท จากสนามบิน Haneda Tokyo ไป Omiya Station

22406287_10155339670211622_1442490474613810859_n

ป้ายรถเมล์ Airport Limousine Bus

22449836_10155339670261622_5215408358342324299_nเอิ่ม ชอบห้องน้ำ แม่นยำมาก น้ำอุ่นๆ มีลมเป่าแห้งด้วย

22384280_10155339653906622_6791612092901492803_oลงเครื่องมาปุ๊บ มายืนรอรถบัสพร้อม บีม ศรันยู ใครๆ ก็ไปรถบัส มันสะดวกสุดแล้ว

DAY 1: Bangkok – Haneda International Airport, Omiya, Saitame, Tokyo

เครื่องลงเวลา 0700น ตั้งใจลงสนามบินฮาเนดะเพราะคิดว่ามันเดินทางไกล้กว่าสนามบินนาริตะ เมื่อไปถึงนั่งรถ Airport Bus Limousine ไปลงที่สถานีปลายทางคือ Omiya JR Station ค่ารถเมล์ 1,500 เยน หรือ ประมาณ 500 บาทครับ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง เดินทางสะดวกสุดๆ

Deus Exmachina Harajuku

DSCF3167DSCF3174DSCF3228DSCF3200DSCF3225DSCF3188DSCF3211DSCF3250DSCF3254สวยมากๆ

DSCF3247

มาถึงรถตู้ของ Touch Thai Guest House มารอรับ ซึ่ง Touch Thai เป็นที่พักราคาไม่แพงสไตล์ Home stay แบบญี่ปุ่นโดยคุณเต้ ปวาล ชมภูรัตน์ @Pawan Chompurat เช็คอินเรียบร้อยวันนี้มีเวลาทั้งวัน ผมพักร่างกายหนึ่งวัน สร้างความเคยชินกับตัวเองและป้ายต่างๆ ด้วยการขึ้นรถไฟไปเที่ยวในเมือง คือตั้งใจไปร้าน Dues Exmachina Harajuku ใจกลางกรุงโตเกียว แล้วเดินเล่นในเมืองก่อน เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ซึ่งไม่ยากมาก ค่อยๆ แกะไปได้จนกระทั้งเย็นหาอะไรทานแถวที่พักมีให้เลือกหลายอย่าง ราคาถูกสุดคือ 400-600 เยน จัดเต็มก็มี 2,000 เยนครับ แล้วแต่จะเลือก วันนี้ผมมีคุณเต้ พาทัวร์ สบายไป

DSCF3119DSCF3100DSCF3113DSCF3146DSCF3161DSCF3160DSCF3259DSCF3263

22405415_10155342321216622_464979381202187789_nยาชิโนย่า 580 เยน

DAY 2: Omiya – Lake Fujiguchiko (150 กิโลเมตร)
การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในประเทศญี่ปุ่น (Tokyo – Fuji Subaru Line – Lake Kawaguchiko – Izu Skyline – Hakone Line – Naguri – Motegi – Twin Ring Motegi – Omiya)

19029769_1816453605349630_5893727820319708287_n19105519_1816453602016297_170390461968084816_nตารางราคาค่าเช่ารถจาก Japan Rider/Rental819

ผมมีรถส่วนตัวของ Touch Thai Guest House ไปส่งที่ร้าน Rental819 สาขา Saitama ง่ายๆ นะครับ ไม่มีรถไปส่ง คงหลงและเสียเวลาตั้งแต่ออกจากบ้าน ขนาดคนท้องถิ่นยังต้องเปิด GPS นำทาง แท๊กซี่ไม่ต้องพูดถึงครับ แพงสุดๆ เรามาทริปประหยัดกัน

11.00 (เวลาเปิดทำงาน ทำให้เราเริ่มขี่รถได้หลังเที่ยง) ไปถึงทางร้าน Rental 819 สาขาไซตามะ อธิบายทุกอย่างชัดเจนดีครับ พูดภาษาอังกฤษได้ เขาเอาบัตรทางด่วน ETC ไว้ใต้เบาะ เวลาผ่านด่านมันจะบวกเงินไปเรื่อยๆ จนวันคืนรถเราต้องจ่ายเป็นเงินสหรือบัตรเครดิต งานนี้ผมโดนไป 10,000 เยน หรือ 3,000 บาทกับ การเดินทาง 1,000 กิโลเมตร

เมื่อทุกอย่างดูจะโอเคด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือรุ่น Samsung A9 Pro ที่มีถ่าน 5000 แอมป์ ใช้งานติดต่อกันได้นานกว่าปรกติเพื่อการเดินทางและใช้งานถ่ายรูป (ไม่มีการพกกล้องใหญ่แต่อย่างใด) เหลือบมองดูใน Google Map ที่เซท มีบางช่วงเป็นภาษาญี่ปุ่นจึงเอะใจ ขอจด ชื่อของทางด่วนหลักๆ ที่ต้องไป และติดเอาไว้ที่ถังน้ำมัน กันพลาด

ซึ่งก็พลาดจริงๆ ถ้าไม่ทำแบบนี้เพราะเส้นทางที่ไปต้องลอดอุโมงค์หลายครั้ง และสัญญานก็หายไป ทำให้ Google Map หยุดทำงาน ออกจากอุโมงค์ หลายครั้งเจอทางแยกทันที เราต้องอ่านป้ายเอาเองซึ่งมีภาษาอังกฤษตัวเล็กๆ อยู่ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ เรามีโอกาศหลงเส้นทางสูงและเสียเวลานานกว่าจะกลับมาได้

22365574_10155342691746622_1516520729210426515_nจอดเช็ค  Google Map ว่าหลงทางหรือไม่เพราะลอดอุโมงค์หลยอุโมงค์แล้วเจอทางแยกเลยจนการนำทางกระตุก ปรากฎว่ายังไม่หลงแต่เริ่มมีสัญญานเตือน

ฝนที่ตก อากาศที่ลงมาถึง 10 องศา ทำให้สมาธิเสียไปมาก ผมหลงทางตาม Google Map ไปผิดที่ผิดทางอยู่หลายครั้ง เสียเวลาไป สองชั่วโมง กว่าจะรู้ตัวก็คือ เวลาเราจอดรถ แน่นอน หัวรถจะเปลี่ยนทิศ Google Map จะงง และพาเราไปคนละทิศทางซึ่งทางที่ปลี่ยนไป ก็สามารถไปได้เช่นกันแต่ ลัดบ้าง อ้อมบ้าง ไม่มีผู้คนบ้าง ต้องใช้ความรู้สึก การคาดเดาและการเอาตัวรอดให้พาตัวเองกลับมาให้ได้
แท่นที่ผมจะไปถึงที่พักบริเวณ Lake Kawagushiko บ่ายสามโมง ผมกลับไปถึงที่นั่น หกโมงเย็นซึ่งมีแต่ความมึด ที่นั่นมึดเร็วมากครับ ทำให้สองชั่วโมงในการเก็บภาพยามเย็นของผมหายไป
ซึ่งมันมีค่ามากๆ

ออกจากร้านเช่ารถ บ่ายโมง ระยะทาง 150 กิโลเมตร มาถึง ที่หมาย เกือบ ห้าโมงเย็น โดนไปสามชั่วโมงกว่า เพราะหลงสิครับ เสียเวลาไปเป็นบทเรียน

งานนี้ไม่มีคนนำทางนะครับ แถมฝนตกตลอดทาง ไม่มีทางได้เห็นภูเขาไฟฟูจิแน่ๆ วันนี้
ไม่เป็นไร พักที่นี่ Shiki-no-Yado Fujisan มีออนเซ็นให้พักร่างกายถือว่ายังโอเค

พรุ่งนี้ลุ้นต่อ

22528793_10155351449471622_1700909037504125019_oหมดกัน ฟูจิซัง หายไปใหน @Lake Kawagushi

Day 3: Lake Kawagushi – Fuji Subaru Line 5th Station – Izu Skyline – Hakone Skyline – Hichihoji – Naguri – Bikumono Log House (272 กม.)

ในการเดินทางไป Izu Skyline จะใช้เวลา นาน สี่ถึงห้าชั่วโมงจากที่พักที่ทะเลสาบ Kawaguchiko แต่ผมก็อยากขึ้นไปลิ้มรส ถนนในตำนานอีกเส้นทางหนึ่งคือ Fuji Subaru Line ซึ่งจะพาเราขึ้นเขาไปถึงตีนเขาภูเขาไฟฟูจิ

22459325_10155343016146622_5705261704368373519_oแวะเติมน้ำมัน หยอดเงินเอา ไม่ยากๆ ฝนตกแต่เช้า ยังไงก็ต้องลุย

ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลา หนึ่งชั่วโมง ไป และ อีกหนึ่งชั่วโมงกลับ
อยากไปต้องกัดฟันตื่นตีห้าครับ ออกจากโรงแรม เช็คเอาท์เลย ที่ 0630 น. แล้ววนไปถ่ายรูปกับทะเลสาบสักหน่อย ก่อนออกเดินทางไปหา ฟูจิซัง

22528668_10155345181236622_2565668579548459535_o22550496_1663848643688152_5097780227240304715_o

22366463_10155344425101622_8974313476178413117_n

ฟูจิซางงงงงงงงง ร้องดังๆ ก็ไม่มา

22405628_10155344425201622_1932110859919175968_nFuji Subaru Line 5th Station

แง…ฝนตก หมอกคลุมตลอดทาง แต่ก็ต้องไป ตั้งใจแล้วไม่อย่างนั้นจะไม่มีข้อมูลจริงมาเล่าให้ฟัง
Fuji Subaru Line นั้นเสียค่าเข้านิดหน่อย 2,060 เยนครับก็ 700 บาท ถนนดีมากๆ ผมซัดเจ้า CB1100 คนเดียว ไม่มีใครมาเพราะสภาพอากาศไม่ดี แต่ผมสนุกมาก รถควบคุมง่ายเลยไม่เครียด ชุดที่ใช้เป็น ซับในของ Touratech ทั้ง (https://www.touratech.co.th) งชุด คุมอุณหภูมิดีเลิศ สวมทับด้วยเสื้อมีฮู๊ดกันฝน เพราะผมอยากแนวๆ กางเกงทัวริ่งสีดำของ Alpinestars รุ่น Techtouring (www.facebook.com/alpinestarsthailand) มี 3 ชั้น กันหนาวและกันฝน Gotetex รวมทั้งรองเท้าบู๊ทด้วย Goretex ทั้งตัวครับ ถึงจะรอด ที่ยากคือจะแต่งหล่ออย่างไรให้สบายตัวด้วยถ่ายรูปมาเข้ากับสถานที่ด้วย หมวกที่ใช้เป็น TT&Co. Japan (http://www.ttandco.com)
ต้องบอกข้อมูลชุดที่ใส่ครับ เราควรเช็คสภาพอากาศเสมอ ให้ร่างกายเปียกในสภาพอากาศหนาวไม่ได้

22426491_10155345381696622_4692851696427879051_oFuji Subaru Line 5th Station ฟ้าเปิดแค่ 5 นาที ได้ภาพนี้มา หากไม่มีฝนจะวงยแค่ใหน

Fuji 5th Station
ไม่เห็นอะไรเลยมีแต่ม่านขาวๆ เพราะเราอยู่ในเมฆอันหนาทึบ ถ่ายรูปยังไม่ได้เลย โทรศัพท์ เปียก พัง ผมไม่ต้องเดินทางกลับกันพอดี
จึงรีบขี่รถลงเขามา โชคดีระหว่างทางฟ้าเปิดทำให้ผมมองเห็นความสวยงามของทรรศนียภาพ ใบไม่เปลี่ยนสีสวยงามมาก ไม่เห็นฟูจิซังอยู่ดี แล้วเพียงไม่ถึง 5 นาที ฟ้าก็ปิด คราวนี้ยาวเลยครับ ฝนตกหนักจนไปถึงตีนเขา

Screen Shot 2560-10-24 at 2.53.12 PMIzu Skyline เปียกๆ ตลอดทาง ถ่ายรูปไม่ได้เลย

DCIM103GOPROหนาว และ เปียก พื้นผิวถนนดีมากแต่ก็มีลื่นๆ บ้าง Honda CB1100 ควบคุมง่าย ไม่ออกอาการ ทำให้เบาใจพอสมควรกับการขี่รถฝ่าทางโค้งและเขาหลายชั่วโมงบน Izu Skyline ครั้งนี้

Izu Skyline
เวลาวันนี้หายไปสองชั่วโมงกว่า ไม่มีอะไรตกถึงท้อง กะจะไปทานที่ Izu Skyline ลงเขามา เวลา 0900 น มีนัดที่เมือง Hachioji เพื่อเดินทางไปนอนที่อุทยาน Naguri เวลา 1330 น. สบายๆ ผมขี่รถเปิด Google map เพื่อผ่านเมือง โกเต็มบะ ก่อนเข้าเมือง Izu หลงออกทางออกผิดอัน อ้อมเสียเวลาไป พักใหญ่ ก่อนเข้าไปในเขตเทือกเขาและหาทางเข้าไปจุดจ่ายเงินทางเข้า Izu Skyline
ความหายนะก็เกิดขึ้นเพราะ Google Map หยุดทำงานและเริ่มทำงานก็ตอนผมเลยทางแยกไป ทำให้มันคลำหาทางใหม่จนพาผมหลงป่านานกว่าชั่วโมง รู้ตัวอีกที อยู่ห่างจากทางเข้า Izu Skyline กว่า 30 กิโลเมตร

DCIM103GOPROเมือง โกเต็มบะ ก่อนเข้า Izu หูยยยยยย

เวลาก็ไปถึง 11 โมงเช้า ไม่มีอะไรตกถึงท้อง กดดูเวลาจากตรงนี้ ผมไปถึงที่หมายช้าไปหนึ่งชั่วโมงจึงจำเป็นต้องขี่รถทนหิวและหนาวไปตามทางไหล่เขาที่บอกตรงๆ ว่า ทางดีมากๆ แม้ฝนตก หมอกลงจัด รู้สึกปลอดภัย แม้สภาพอากาศเลวร้ายก็ยังสนุก
แม้จะปนความเครียดเล็กน้อย ทำได้อย่างเดียวคือไปตามทาง GPS
ในที่สุดผมก็ฝ่าอุปสรรคทุกอย่างออกมาได้และพาตัวเองมาถึงจุดหมายได้โดยสวัสดิภาพ

22539031_10155357092486622_4276560164856690822_oจะไปออนเซ็น

22790692_10210674069356396_763970129_oBikumono Log House22812799_10210673907192342_80337992_o22766513_10210673906952336_551437349_o22782345_10210673898432123_225712262_nออนเซ็นในป่า Naguri

Naguri
คืนนี้เราจะไปนอนที่ Bikumono Log House (https://web.facebook.com/pages/Bikumono-Loghouse) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโลเกชั่นที่มีแต่ธรรมชาติ มีออนเซ็นในป่าที่น่ารัก มีกวาง แรคคูน กระต่าย ให้เห็นเราจะทานมื้อเย็นแบบ BBQ ที่สนามหลังบ้านและพักผ่อนกันหลังการเดินทางอันหนาวเหน็บก่อนเดินทางไปชมการแข่งขัน MotoGP ในวันรุ่งขึ้น

บนทางด่วนไปสนาม Twin Ring Motegi

22528960_10155347407486622_5346077337905415717_o

พี่ๆ ใส่ Race Suit มาดู MotoGP22426289_10155347319186622_1550484378695727360_oไม่ใช่เรื่องยาก แค่เข้าคิว22496244_10155349053826622_4313838538332766023_o22550232_10155349069571622_7363806360211534490_oDSC00584DSC00590DSC00589DSC00587DSC00643

DAY 4: MotoGP TwinRing Motegi (330 กม)

เช้าตรู่ วันนี่เป็นวันสุดท้ายของการขี่รถ และวันนี้ผมมีไกด์นำทางจาก Naguri ไป Motegi และกลับเข้า Tokyo ครับ ยอมรับว่าอุ่นใจ เพราะคาดว่าขี่รถเข้าเมืองน่าจะหลงง่ายมาก
สามชั่วโมงบนทางด่วน พาผมมาจอด เจ้า CB1100 ที่บริเวณ North Gate ของ สนาม TwinRing Motegi รถติดมาก ทำใจเอาไว้แล้ว ฝนตกครับ ตกหนักเลย ไม่สามารถถ่ายรูปอะไรไว้ได้มาก เราได้บัตร Guest จากความอนุเคราะห์ของ Idemitsu บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นทำให้เราเข้าไปในบริเวณ ที่พักของนักแข่งแล้วเราก็ได้เจอ Valentino Rossi อย่างไกล้ชิด แหล่มเลย
ชมการแข่งขันจนจบคราวนี้ขี่รถกลับ Omiya แน่นอนว่าการมีไกด์ขับรถนำนั้นเป็นความคิดที่ถูกต้องครับ เพราะการใช้ถนน ทางด่วน เข้าไปในเมืองมันซับซ้อนมากและทับซ้อนกันอีกด้วย เลี้ยวผิด ชีวิตเปลี่ยนครับ มึดด้วย มองไม่เห็นทางด้วย ก็ถือว่า สองชั่วโมงเราก็กลับถึงที่พักเรียบร้อย
ปลอดภัยทุกประการ

22712615_1670051029734580_3224696309392266445_oถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

Day 5: Omiya Saitama

ผมนำรถไปคืนและชำระค่าทางด่วนเป็นเงิน 10,000 เยน หรือ ประมาณ 3,500 บาท ถือว่าแพงใช้ได้เลย กันงบไว้เลยนะครับถ้ามาขี่รถที่นี่ ค่าน้ำมัน สามวัน 1,000 กม น่าจะมีประมาณ 2,500 บาท ถึง 3,000บาท ได้

วันนี้เราทัวร์ร้านขายอุปกรณ์มอเตอร์ไซค์ และแวะเยี่ยมคุณ Hiro Takahashi เจ้าสำนัก TT&Co. Japan ร้านทำหมวกกันน๊อคที่สุดเจ๋ง ทำด้วยมือ เนี๊ยบมากๆ มาพร้อม อารมณ์วินเทจซึ่งเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว

ท้ายสุดคือความสำเร็จของการเดินทางตามสิ่งที่วาดเอาไว้ครับ โล่งอก สนุก เสียว เครียด มีให้ครบครับ สุดท้ายคือความสุขทุกๆ วินาทีที่ได้ขี่รถที่ประเทศญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้เห็น “ฟูจิซัง” ก็ขอฝากเอาไว้ก่อน แล้วจะมาหาใหม่

บทสรุปง่ายๆ
การมาขี่รถคนเดียวที่ประเทศญี่ปุ่นทำได้ไม่ยากครับ แต่ต้องให้แน่ใจว่า
1. คุณขี่รถเป็น ไม่ใช่ขี่รถได้
2. ร่างกายต้องพร้อม
3. ชุดต้องพร้อม
4. รถที่ใช้แนะรถใหญ่ 600-1200CC เพราะเจอลมแรง ควรหนักแน่นไว้ก่อน
5. Honda CB1100 ใช้ดีเกินคาด ควบคุมง่าย น้ำหนักมีสู้กับลมแรง ประหยัดน้ำมันมาก
6. ชุดที่ใช้ควรกันหนาวและกันฝนหากเดินทางมาที่นี่ คาดการณ์ไม่ได้
7. ทางดีมากพื้นผิวถนนดีช่วยให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
8. คนขับรถเป็นระเบียบ สบายใจได้
9. ต้องเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง
10. ห้ามทำตัวเป็นสตั๊นแมน คนที่นี่ไม่ชอบ
11. ห้ามปาดซ้าย ขวา
12. ควรมีใกด์ นำทาง หลงทางเสียดายเวลา
13. ค่าใช้จ่ายประมาณ 35,000 บาท ต่อคน รวมค่าที่พัก ค่าไกด์ ค่าเช่ารถ P4 ค่าอาหารบางมื้อ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่รวมค่าน้ำมันและค่าทางด่วน

Special Thanks
#aphonda
#hondabigwing
#idemitsu
#touratech
#ttandcojapan
Hiro Takahashi
Japan Rider
Rental819台灣(日本機車出租 / 重機自助旅遊)
IDEMITSU Honda Team Asia
TT&CO. Thailand
Honda Big Wing
Touratech Thailand
Alpinestars Thailand
#hondacb1100
Bikumono
TouchThai Guesthouse
Pawan Chompoorat
Wanchat Jarusean

HOME OF TRIUMPH MOTORCYCLES, HINCKLEY UK

7J9A3522

 

HOME SWEET HOME

THE TRIUMPH VISITOR EXPERIENCE

 

เมือวันที่ 1-5 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ให้เกียรติ นิตยสาร Rubbers เดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อร่วมงานเปิดตัว “ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” ซึ่งเป็นศูนย์รวมตำนานคลาสสิกกว่า 1 ศตวรรษ ที่จะเปิดเป็นทางการให้ทุกคนเข้าชมได้ต้นเดือน พฤศจิกายน 2017 นี้

7J9A41367J9A50397J9A50267J9A4757

 

แน่นอนว่ามันคือแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่บิ๊กไบค์สัญชาติอังกฤษ เปิดเช็คพอยท์ใหม่ของนักบิดทั่วโลก ชวนเที่ยว ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ทัวร์โรงงาน  แฮงเอาท์กับไทรอัมพ์คาเฟ่ 1902 ณ เมืองฮิงค์ลีย์  ประเทศอังกฤษ

เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่พาคุณย้อนรอยต้นกำเนิดกว่า 115 ปี ของแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวอย่างละเอียดตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการออกแบบ วิศวกรรม การแข่งขัน และการผลิต พร้อมใกล้ชิดกับคอลเลกชันรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ต้นแบบที่หาดูยากที่สุดในโลก อาทิ ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์  ที่นักแสดงชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง สตีฟ แมคควีน (Steve McQueen) ใช้ขี่ในฉากกระโดดข้ามรั้วในเรื่อง เดอะ เกรท เอสเคป ไทรอัมพ์ นัมเบอร์วัน (Triumph No1) ที่มีความโดดเด่นจากปี 1902 สปีด ทริปเปิล ที่ ทอม ครูซ ขี่ในภาพยนตร์ มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล 2 ไทรอัมพ์ ทรัสตี้ โมเดล เอช ปี 1919 (1919 Triumph ‘Trusty’ Model H) ซึ่งใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1  ตลอดจนสปีด ทริปเปิล 94  ฯลฯ พร้อมไฮไลท์การเยี่ยมชมโรงงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่เคยเปิดให้เข้าชมมาก่อน นอกจากนี้ยังมี ไทรอัมพ์คาเฟ่ 1902  และ ไทรอัมพ์ ช็อป (TriumphShop) ที่นักบิดจากทั่วโลกต้องมาสัมผัส ทั้งนี้  “ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 เป็นต้นไป ณ  เมืองฮิงค์ลีย์ เลสเตอร์ไชร์ ประเทศอังกฤษ

1508558329947

คุณจักรพงษ์ ศานติรัตน์ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ปุ้ม เศรษฐบุตร (กลาง) บรรณาธิการ นิตยสาร Rubbers และเจ้าหน้าที่ของ Triumph Visitor Experience Centre

20171003_1607197J9A42157J9A42087J9A4222

7J9A475615085583593217J9A4792

มร.พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าวว่า “ในปี 2017 ไทรอัมพ์มีช่วงเวลาที่สำคัญเกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเซ็นสัญญาการเป็นพันธมิตรกับบาจาจ (Bajaj) ผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เพื่อพัฒนาตลาดรถมอเตอร์ไซค์ให้ครอบคลุมไปทั่วโลก และการเซ็นสัญญากับดอร์น่า (Dorna) ในการเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวให้กับการแข่งขันโมโตทู (Moto2) ประจำฤดูกาล 2019 เป็นต้นไป อีกทั้งมีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยยอดขายรถมอเตอร์ไซค์กว่า 63,000 คัน ตลอดจนการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ถึง 15 รุ่น ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

มร.พอล สเตราท์ กล่าวต่อว่า “ไทรอัมพ์ภูมิใจและตื่นเต้นที่จะได้เชื้อเชิญให้แฟนคลับที่ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์ และรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์จากทั่วทุกมุมโลกได้เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของไทรอัมพ์ กับความพิเศษล่าสุดกับการเปิดตัว “ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Triumph Factory Visitor Experience) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทรอัมพ์ ที่จะเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้เยี่ยมชมเบื้องหลังการผลิต และร่วมเดินทางย้อนไปในประวัติศาสตร์ความเป็นเลิศทางด้านรถมอเตอร์ไซค์ตลอดระยะเวลา 115 ปี ณ สถานที่ ที่เป็นจุดเริ่มต้นรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกคัน ด้วยการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ที่หาชมยากและมีความสำคัญมากมายหลายคัน เป็นประสบการณ์ที่ผู้เยี่ยมชมและแฟนคลับรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ไม่ควรพลาด รวมไปถึงการมาร่วมเฉลิมฉลองมรดกตกทอดอันน่าภูมิใจ และความหลงใหลในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่ยอดเยี่ยมไปด้วยกัน และหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นรางวัลตอบแทน เป็นแรงบันดาลใจ ให้แก่แฟนๆ ของไทรอัมพ์ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของความรักในรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์สำหรับคนรุ่นใหม่”

7J9A42897J9A41797J9A42717J9A41707J9A41677J9A41647J9A42227J9A37787J9A39917J9A40217J9A37237J9A41577J9A41477J9A41417J9A4197

“ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” ประกอบไปด้วยส่วนหลัก 8 ส่วน ซึ่งทั้งหมดจะผสานรวมกันเพื่อมอบประสบการณ์การสัมผัสไทรอัมพ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เริ่มต้นจากการเฉลิมฉลองที่แบ่งปันมุมมองระหว่างผู้ขี่ และแฟนๆ ไปสู่ต้นกำเนิดอันน่าทึ่งของรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งการแข่งขันและวัฒนธรรม การมีเครือข่ายผู้ขับขี่ไทรอัมพ์ทั่วโลก ตลอดจนเรื่องราวการออกแบบตั้งแต่เริ่มไปจนถึงการผลิตในขั้นสุดท้าย ซึ่งทั้งหมดนี้คือการนำเสนอบ้านของไทรอัมพ์ ที่สร้างโดยผู้ขับขี่เพื่อผู้ขับขี่เองอย่างแท้จริง อาทิ

วิซิเตอร์ เซ็นเตอร์ (Visitor Centre) – ส่วนจัดแสดง การออกแบบ วิศวกรรม รวมถึงการผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นต้นแบบ และส่วนหนึ่งของการจัดแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ จะมีรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ที่เคยปรากฏในภาพยนตร์ยอดนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็น “ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์” (Triumph Bonneville) ที่นักแสดงชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง สตีฟ แมคควีน (Steve McQueen) ใช้ขี่ในฉากกระโดดข้ามรั้วในเรื่อง เดอะ เกรท เอสเคป (The Great Escape) หรือรถมอเตอร์ไซค์ “ไทรอัมพ์ นัมเบอร์วัน” (Triumph No1) ที่มีความโดดเด่นจากปี 1902 และยังมีรถ “สปีด ทริปเปิล” (Speed Triple) ที่ทอม ครูซ (Tom Cruise) ขี่ในภาพยนตร์ มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล 2 (Mission Impossible 2) รวมถึงการแข่งขันรถที่ประเมินมูลค่ามิได้และการบันทึกการทำสถิติความเร็วสูงสุดบนภาคพื้นดินบนสนามเกลือบอนเนวิลล์อย่างแลนด์สปีด (Land Speed) ด้วยเครื่องยนต์ “สตรีมไลน์เนอร์” (Streamliner) รุ่นออริจินัลในปี 1956 ตลอดจนต้นแบบเครื่องยนต์ไทรอัมพ์สำหรับการแข่งขันรุ่นล่าสุด ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์รายการโมโตทู (Moto2) ฤดูกาล 2019

7J9A4923

IMG_0355

นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์รุ่นที่หาชมได้ยากและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกมากมาย อาทิ ไทรอัมพ์ ทรัสตี้ โมเดล เอช ปี 1919 (1919 Triumph ‘Trusty’ Model H) ซึ่งใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือจะเป็นรถบอนเนวิลล์ ในปี 1959 (1959 Bonneville) ที่ได้เขย่าโลกและตำนานของไทรอัมพ์ทั้งหมดด้วยรถรุ่น เฮอริเคน เอ็กซ์75 (Hurricane X75) ที 595 ไทรเดนต์ (T595 Trident) และ สปีด ทริปเปิล 94 (Speed Triple 94) รวมถึงการแข่งขันและการได้รับชัยชนะอันเป็นใจความหลักในเรื่องราวของไทรอัมพ์ นับตั้งแต่ตำนานการแข่งขันรายการ ไอส์ล ออฟ แมน ทีที ปี 1920  (1920 Isle of Man TT) ควบคู่ไปกับการแข่งขันระหว่างรถจักรยานยนต์อเมริกาและอังกฤษในช่วงยุค 1950 และ 1960 เช่นเดียวกับชัยชนะของ แกรี่ จอห์นสัน (Gary Johnson) ในการแข่งรายการไอส์ล ออฟ แมน ซูเปอร์สปอร์ต ทีที (Isle of Man Supersport TT) ก็ได้รับชัยชนะมาด้วยรถเดย์โทน่า 675 (Daytona 675)

20171003_204801

แกรี่ จอห์นสัน (Gary Johnson) แชมป์การแข่งรายการไอส์ล ออฟ แมน ซูเปอร์สปอร์ต ทีที (Isle of Man Supersport TT) ที่ได้รับชัยชนะมาด้วยรถเดย์โทน่า 675 (Daytona 675)

20171003_160011

Triumph Daytona 765 กับเครื่องยนต์ใหม่ที่พร้อมลงรายการ Moto2 ในฤดูกาลหน้า

ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ ทัวร์ (Triumph Factory Tour) – การเยี่ยมชมในส่วนของโรงงานผลิตที่ถือเป็นหัวใจการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในสหราชอาณาจักร และเป็นสถานที่แห่งจิตวิญญาณของไทรอัมพ์ ซึ่งผู้เยี่ยมชมจะได้เห็นเบื้องหลังทางวิศวกรรมและการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เคยเปิดให้เข้าชมมาก่อน พร้อมผู้บรรยายที่จะคอยให้ข้อมูลตลอดระยะเวลา 90 นาที

7J9A4151

ไทรอัมพ์คาเฟ่ 1902 (Triumph 1902 Cafe) –  สถานที่อันยอดเยี่ยมให้ผู้เยี่ยมชมได้ผ่อนคลายและเติมพลัง ซึ่งมีกาแฟและเครื่องดื่ม รวมถึงเมนูอาหารที่หลากหลายไว้คอยบริการ พร้อมสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) ฟรี โดยตั้งเป้าให้นักบิดจากทั่วโลกมาเป็นส่วนหนึ่งของคาเฟ่ที่มีบรรยากาศที่หาไม่ได้ในโลกในนี้

ไทรอัมพ์ ช็อป (Triumph Shop) – ร้านขายของที่ระลึกไทรอัมพ์ สำหรับผู้ที่มองหาสินค้าไทรอัมพ์ที่โดดเด่นมีคุณภาพสูง เช่น เสื้อผ้า หรือของที่ระลึกรุ่นลิมิเต็ดซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่นี่เท่านั้น

20171003_183528

ทั้งนี้ “ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ฟรี แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมในส่วน ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ ทัวร์ (Triumph Factory Tour) มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมคนละ 15 ปอนด์ โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ ณ เมืองฮิงค์ลีย์ เลสเตอร์ไชร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 เป็นต้นไป      สามารถจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าได้ที่ http://www.triumphmotorcycles.co.th/visitor-experience  มร.พอล สเตราท์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้สนใจในประเทศไทย หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด อีเมล์ Contact.TH@triumphmotorcycles.com หรือทาง https://www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand

 

 

MOTORCYCLES OF HONOR

 

 21992763_1637447192994964_8878383351587599928_o

MOTORCYCLES OF HONOR

ขบวนรถจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson กองบัญชาการตำรวจสันติบาล

 

นับตั้งแต่ พ.ศ.2493 ตำรวจสันติบาลได้นำรถจักรยานยนต์ Harley-Davidson แบบเกียร์มือ มีรถพ่วงข้าง ออกตรวจรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และมีโอกาสได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทนับแต่นั้นมา

 

22051211_1637447452994938_6037457234379184551_o

ต่อมา มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตำรวจเมื่อ พ.ศ.2548 กองบังคับการตำรวจสันติบาล (บก.ส.) 3 จึงกลายเป็นหน่วยหลักที่รับผิดชอบภารกิจถวายความปลอดภัยและอารักขาบุคคลสำคัญ

ขบวนรถจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson ถือเป็นหน้าตาของประเทศในการถวายอารักขาและนำขบวนต้อนรับพระราชอาคันตุกะ รวมถึงเอกอัครราชทูตต่างชาติประจำประเทศไทย ดังนั้น ขบวนรถจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ทั้งยังมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์จักรยานยนต์เกียรติยศภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย โดยมีทั้งรถรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ พร้อมประวัติของรถแต่ละรุ่นให้ศึกษา ขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson ยังเป็นต้นแบบของรถจักรยานยนต์นำขบวนอื่นๆ รวมไปถึงขบวนของตำรวจนครบาลด้วย

21951064_1637447302994953_7021352472835051885_o

การปฏิบัติภารกิจนำขบวนของจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson จะขับขี่เป็นรูปหัวลูกศร 4 แบบ ดังนี้

  1. State Visit ใช้รถ 15 คันเต็มยศ ในการนำและแซงขบวนถวายพระเกียรติเทิดพระเกียรติสำหรับพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  2. Official Visit จะใช้รถ 9 คันในการนำขบวนผู้นำรัฐบาลต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของรัฐบาล
  3. Working Visit จะใช้รถ 5-7 คันในการนำขบวน ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐบาลแบบกึ่งทางการ
  4. Preparation of the Letters of Credence จะใช้รถ 5-9 คันตามความเหมาะสม ในการนำขบวนเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นตราตั้ง อักษรสาส์นตราตั้ง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศไทย

22042178_1637447182994965_3735948858097453934_o

การขี่นำของขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson จะต้องมีคำสั่งอย่างเป็นทางการเท่านั้น หากเป็นพระราชภารกิจพระบรมวงศานุวงค์ ทางกรมราชองครักษ์จะเป็นผู้ประสานงานมา หากเป็นภารกิจต้อนรับผู้นำประเทศหรือเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ทางกระทรวงต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานงานกับกองบัญชาการสันติบาล 3

22051046_1637447309661619_4736943376873953934_o

นับจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 8 ทศวรรษที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้ก่อกำเนิดขึ้น และขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson ได้ปฎิบัติภารกิจถวายความปลอดภัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาอย่างต่อเนื่อง ตราบจนวันสุดท้าย นับเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าผู้ขับขี่จักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson ทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างสูงสุด ที่ได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท

21992701_1637447449661605_8908552341038852786_o21950007_1637447066328310_5317346551786356605_o21994403_1637447062994977_2611057809421736425_o

การคัดเลือกนายตำรวจแต่ละรุ่นมักจะมาจากความสมัครใจของพี่น้องตำรวจที่รักการขี่รถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมาจากหลางหลาย ‘กรม’ และ ‘กองบัญชาการ’ ยามไม่มีภารกิจ ตำรวจทุกนายจะกลับไปปฎิบัติหน้าที่ของตน จนกว่าจะมีงานสำคัญจึงจะรวมตัวเพื่อภารกิจเดียวกัน

22048102_1637447199661630_804567575091590133_o

22047804_1637447076328309_7838664204799077939_o

ปัจจุบันขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศ Harley-Davidson ประกอบด้วยรถรุ่นต่างๆ ดังนี้ Road King ปี 1997 จำนวน 10 คัน Electra Glide ปี 2009 จำนวน 10 คัน Electra Glide ปี 2016 จำนวน 9 คัน และกำลังสั่งรถรุ่นใหม่ปี 2017 มาเพิ่มอีกจำนวน 15 คัน ส่วนรถรุ่นเก่าปี 1972 และ 1968 ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ยังมีจอดแสดงที่พิพิธภัณฑ์จักรยานยนต์เกียรติยศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

22048150_1637447312994952_501920454074937251_o22051219_1637447446328272_4209959803023944027_o

ขอขอบคุณ

พ.ต.อ.อรรถชาย อรรถตราสิงห์ ผกก.6 บก.ส.3 และพ.ต.ท.บัญชาศิลป์ บุญมณี รอง ผกก.6 บก.ส.3

 

WORDS:  Akkaporn Vichitranon for Rubbers Magazine

PHOTOS: Tanapol Kaewpring for Rubbers Magazine

 

ON THE LEAGE OF THEIR OWN: KTM DUKE SERIES

IMG_8216

เราเลือกซื้อรถเพราะอะไร?

รูปร่างหน้าตาการออกแบบ

นิสัยของเครื่องยนต์

อุปกรณ์ติดรถที่ให้มา

หรือเรื่องราวต่างๆ ของมัน หรือทั้งหมดที่กล่าวมา?

IMG_7449

ผมเชื่อว่าทั้งหมดที่กล่าวมามีส่วนทั้งหมดอยู่ที่ว่าแต่ละหัวข้อจะได้คะแนนจากคุณมากแค่ใหน และในโอกาสนี้เราจะมาพูดกันถึงอัศวินสีส้มแห่งค่ายรถมอเตอร์ไซค์นั่นก็คือ KTM นั่นเอง แต่เราจะมาดูรถโมเดลที่ขายดีที่สุดของพวกเขาอย่าง DUKE Series

IMG_7428

KTM DUKE 200 250 และ 390 ถือได้ว่า เป็นโมเดลเริ่มต้นที่ให้มาครบทั้งความแรงและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เรียกว่าทำให้ทุกอย่างกลมกล่อมเช่นระบบช่วงล่างและระบบความปลอดภัยในราคาที่เป็นมิตร

IMG_7207IMG_7201

KTM มีสโลแกนที่ชัดเจน “Ready to Race” ซึ่งไม่ได้มาแบบมั่วๆ เพราะองค์กรณ์นี้รับพนักงานที่ “แพชชั่น” เกี่ยวกับการขี่รถรวมทั้งเรื่องการแข่งขัน และความเร็วโดยเฉพาะที่บริษัทแม่ที่ประเทศออสเตรียนั้นถึงกับมีสนามทดสอบทั้งทางเรียบทางฝุ่นหลังบ้านพร้อมรถทุกรุ่นให้พนักงานได้ขับขี่ซ้อมมือกันได้ทุกเมื่อ

เจ๋งใหม? ดูเหมือนเป็นงานในฝันของคนหลายคนนะ

คำว่า “Extreme” นั้นถูกฝังอยู่ในสายเลือดของพวกเขาและเป็นหนึ่งในการออกแบบที่ต้องสื่อออกมา ให้ได้ทั้งรูปลักษณ์และอารมณ์การขับขี่

IMG_7476

มาทำความรู้จักกับ KTM DUKE รุ๋นเล็กทั้งสามโมเดลในครั้งที่ได้จัดทำขึ้นโดยสื่อชั้นนำ 4 องค์กรณ์ Rubbers Magazine, Motocross Magazine, 2 Fast Magazine และ Riding Magazine เพื่อนำเสนอมุมมองต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะการทดสอบการขับขี่แต่การพูดถึงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของรถอีกด้วย

การเข้าร่วมงาน Gypsy Beach Camp ที่ชายหาดแห่งหนึ่งโดยจำกัดผู้เข้าร่วมงานแค่เพียง 800 คนเท่านั้น โดยภายในงานจะรวมพลพรรคนักบิดที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอิสระ และอยากออกไปสัมผัสผืนทราย ชายทะเล มีลานประลองความเร็วบนหาดทรายที่เป็นศูนย์กลางการพบปะพูดคุยระหว่างคนที่รักในสิ่งเดียวกัน ฟังดูแล้วเหมาะสุดๆ สำหรับไลฟ์สไตล์แบบนี้ โดยเฉพาะคนที่มองหารถคู่ใจที่เน้นความสนุกในการใช้งานเป็นหลัก

การเดินทางกว่าสามร้อยกิโลเมตรด้วย KTM Duke 200 250 และ 390 นั้น เปลี่ยนทัศนะคติเรื่องการใช้รถเครื่องยนต์ขนาดเล็กเดินทางไกลได้อย่างสิ้นเชิง

ซึ่งผมกำลังจะอธิบายว่าเพราะอะไร

IMG_7498

ขอบคุณหมวกกันน๊อกจาก  Touratech (Aventuro Touring)

https://www.touratech.co.th/aventuro/touratech

IMG_7404IMG_7321IMG_7347IMG_7339IMG_7324

RIDING THE DUKES

KTME DUKE มีให้เลือกสามโมเดลคือ 200 250 และ 390 ความจุของเครื่องยนต์ก็ตามตัวเลขรุ่น เข้าใจได้ไม่ยาก ราคาก็มากน้อยตามรุ่นอีกด้วย อยู่ที่ว่าคุณพอใจกับมันแค่ใหน ในขณะที่มิติรถจะเท่าๆ กัน

KTM DUKE หากไม่รู้จักนิสัยของพวกเขา คุณจะรู้สึกว่ามันดื้อ มีอาการสั่นไปทั้งร่างโดยเฉพาะ 390 ซึ่งไม่ผิดหรอกถ้าคุณขี่มันแบบ “ติ๋ม” คือพาไปด้วยรอบเครื่องเบาๆ 3,000-4,000 รอบ แต่หากเราลากรอบขึ้นไปถึง 7,000-8,000 รอบแล้ว ทุกอย่างจะนิ่มนวลทันที

นั่นแหละครับการใช้งานที่ถูกต้อง!

IMG_8285

KTM Ready to Race ทำรถทุกโมเดลออกมาให้เจ้าของรถสนุกกับมัน และดูเหมือนจะไม่อ่อนข้อให้เสียด้วย ทุกโมเดลให้ช่วงล่าง WP (White Power) มาด้วยซึ่งบอกได้เลยว่าทำงานได้ดีเยี่ยม รองรับสภาพถนนในเมืองไทยได้อย่างเหมาะสม

ท่านั่งที่ออกแนวโมตาร์ดนิดๆ หลังตรงๆ ทำให้ดูพร้อมลุยตลอดเวลา สำหรับ 390 นั้นทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง มีพละกำลังแซงรถช้าได้เป็นอย่างดีแต่ความสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์มีให้เห็นชัดเจนกว่าตัว 250 และ 200 นั่นหมายความว่า 250 และ 200 นั้นนุ่มนวลกว่าเยอะแต่ความแรงนั้นเทียบกันไม่ได้เลย

IMG_8260

KTM DUKE 390

DUKE 390 ราคา 199,900 บาท บอกได้คำเดียวว่าเป็นโมเดลที่ให้มาครบพร้อมรบทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรมากเพราะพละกำลังเครื่องยนต์ที่มากที่สุดเกือบ 400CC ทำให้ 390 สามารถพาคุณไปถึงจุดสุดยอดของการใช้งานแนว ‘Extreme” ได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับเจ้าของรถที่มีความเกรียนในตัวและมีไลฟสไตล์ที่ไม่เหมือนใครนั่นคือการใช้งานในสนามแข่งที่ต้องการที่จะ “เอาชนะ” ไม่ใช่แค่ออกกำลัง หรือต้องการฝึกฝนการใช้งานแนวผาดโผนหรือ “Stunt” จะยกล้อหรือสต๊อปปี้ 390 ดูเหมือนจะสร้างมาเพื่อสิ่งนี้

IMG_8267

KTM DUKE 250

Duke 250 ราคา 179,900 บาท เป็นโมเดลที่ผมว่า “เนียน” ที่สุดเพราะมีพละกำลังมากกว่า Duke 200 เพียง 50CC ก็จริงแต่ สามารถตามติด Duke 390 ได้ในสามสี่เกียร์แรก ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ให้ความแรงมากลางๆ

ในเมืองนั้น Duke 250 อาจไม่ต่างจาก Duke 200 มากนัก แต่เวลาเดินทางไกลนั้นคุณจะลืม Duke 200 ไปเลย เรียกว่า เพอร์เฟคในเมือง และเกือบเพอร์เฟคในการออกทริป เหมาะสำหรับคนที่ใช้ในเมืองและนิยมออกทริปบ้าง ลงสนามแข่งบ้างเพื่อออกกำลัง

IMG_8273

KTM DUKE 200

Duke 200 ราคา 129,900 บาท นั้น ถือได้ว่ามีความแรงน้อยที่สุด แต่ก็มอบความนิ่มนวลมาให้มากที่สุดเช่นกัน ไม่กระโชกโฮกฮาก เหมาะกับการใช้งานของมือใหม่มากๆ ทั้งประหยัดเงินและยังสามารถเดินทางไกลไปกับ 250 และ 390 ได้ เพียงแต่อาจจะต้องขี่ตามกันเหนื่อยหน่อยเท่านั้น เหมาะกับการใช้งานในเมือง

21587325_945034358967899_5537819284601347805_o21587138_945409038930431_6755682253783751991_o21641103_945032475634754_9041858405197334828_o21586683_945032302301438_2819038849748196514_o21752632_945032042301464_1256677011866658822_o21587033_945034872301181_1854126176966609546_o21552064_945034155634586_5507092427906265628_o21640804_945033365634665_2936089903120966542_o21587327_945033615634640_3796016387884976674_o21743714_945032922301376_4141025536850985529_o21587390_945032595634742_1818695935095680317_o21586701_945032542301414_2105061048280275443_o21686890_945033342301334_1420238268317270287_o21586579_945033585634643_2922061507923636327_o21752579_945032622301406_3371924172466122789_o21586893_945032372301431_1909688845632801037_o21586956_945032185634783_7642816973593450017_o

GYPSY BEACH CAMP

เราออกเดินทางไปทางอำเภอ “คลองโคลน” จังหวัดสมุทรสงคราม ผ่านไปทาง อำเภอชะอำ ก่อนผ่าน อำเภอหัวหิน เข้าปากน้ำปราณ สภาพถนนเป็นทางคดคี้ยวผสมทางตรง บอกได้เลยว่าสนุกมาก ผมใช้ Duke 390 ก่อน ก็แลเห็น 250 และ 200 ตามติดไม่ได้ถูกทิ้งแต่อย่างใดกับความเร็วที่กฎหมายกำหนด

ยาวๆ ไปจนถึงถนนเลียบชายหาด อำเภอปราณบุรี แวะถ่ายรูปกันตามสไตล์การขี่รถท่องเที่ยว การที่รถมีความแรงและน้ำหนักเบาก็ดีไปหลายแบบ จะเข็นรถ ขยับรถ แต่ละครั้งง่ายดายไม่เหนื่อยเลย เวลาไปกันเป็นกลุ่มก็มีคนมองเหมือนกันนะ

21742963_10213733554396124_3742682311260070939_n

พี่ไมค์ เจ้าของโรงแรม Lakaza De Pran  (ซ้าย)

ตามกำหนดการณ์เราแวะที่โรงแรม Lakaza De Pran (https://www.facebook.com/lakaza.depran) รอพบเจ้าของอารมณ์ดี พี่ไมค์ พลภัทร เวลส์ช ไบค์เกอร์ ดารา นักแสดง อารมณืดี ที่นอกจากจะมีโรงแรมที่น่ารักราคาไม่แพงที่ อำเภอปราณบุรีแล้ว ยังพาเราไปทางลัดที่ขี่รถได้สนุกมากก่อนเข้างาน Gypsy Beach Camp ของพี่สุกี่ กลม สุโกศล แคลป์ ที่จัดเป็นครั้งแรก

เมื่อไปถึงพี่สุกี้ก็ต้อนรับพวกเราด้วยการให้ขี่รถลุยทรายร่วนเข้างานเป็นที่สนุกสนานปนความหวาดเสียวให้แก่พลพรรคชาว KTM ที่มารวมตัวกันหลายสิบชีวิตแต่เชื่อหรือไม่ว่ามัน ถูกอก ถูกใจ ทุกคนที่ไปจริงๆ เหมือนกับว่าเป็นเจ้าของ KTM แล้ว อุปสรรคทุกอย่างดูเป็นเรื่องสนุกไปหมด

IMG_8247IMG_8240IMG_8180IMG_8172IMG_8178IMG_8194IMG_8181IMG_8232IMG_8220

ที่งาน Gypsy Beach Camp นั้น เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่รักในสิ่งเดียวกัน พวกเขาลงแข่งแดรกบนหาดทรายกันอย่างสนุก มีแต่รอยยิ้ม เราเห็น KTM รุ่นใหญ่อย่าง รุ่น Adventure หรือ Super Adventure ลงแข่งกันทุกคน ส่วนพวกเราก็พา รุ่นเล็กไปวิ่งเล่นกันอย่างสนุกไม่แพ้กัน

ถือเป็นช่วงแห่งความสนุกในการเดินทางใช้ชีวิตแนว “Extreme” ที่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป้นหัวใจของการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ให้ลูกค้าของพวกเขาและการได้เห็นการรวมตัวของกลุ่มคนรัก KTM ได้มาแข่งแดรกกันสนุกๆ บนชายหาดส่วนตัวที่งาน Gypsy Beach Camp จึงได้รู้ว่า พลพรรคชาว KTM มีทักษะติดตัวกันทุกคนทำให้พวกเขาได้สนุกกับตัวเอง กับรถของเขา

21551696_945033105634691_2460375309153014845_o

ที่สำคัญ พอได้จับ KTM ทุกคน Ready to Race!

https://www.facebook.com/KTMFlagshipBangkok

https://www.facebook.com/alpinestarsthailand

 

WORDS: Cap ‘P’

PHOTOS: Suppha-riksh Phattrasitthichoke, Nutthapong Chiaw & Courtesy of Gypsy Carnival

SPEED & STYLE: HONDA ALL NEW CB150R 2017

21557166_10214459372817650_880082318_o
โค้งไฮสปีดบนความเร็ว 120 กม/ชม ไม่มีอาการแกว่ง

ALL NEW HONDA CB150R

เป็นอีกหนึ่งขั้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Honda ที่สร้าง CB150R ใหม่นี้ขึ้นมาใหม่หมดทั้งคันก็ว่าได้ เรียกว่ากลมกล่อมกันเลยทีเดียว และจากการที่ แอดฯ ได้มีโอกาสทดสอบขับขี่มันในสนามทดสอบ Honda R&D Proving Ground ที่ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่ Honda ลงทุนไปกว่าหนึ่งพันล้านบาท มีเพียงสามประเทศเท่านั้นในโลกคือ อเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศไทย งานนี้จึงจัดว่ามี ทีเด็ด!

21557150_10214459372617645_2053357144_o

สิ่งที่จะมาแชร์ข้อมูลในวันนี้นอกจาก ฟีลลิ่งในการขับขี่แล้วยังมีข้อมูลการออกแบบที่ Honda ส่งทีมออกแบบมาคุยกับเราเลย และที่น่าสนใจก็คือการนำ เทคโนโลยีระดับ MotoGP ในสนามแข่งลงมาสู่รถคลาส 150CC ที่ราคาเบาๆ และจะขอให้ข้อมูลเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้เพื่อความง่ายต่อการทำความเข้าใจ

CB150R Exclusive press test riding_Page_04

โปรเจคนี้ได้ MR. YUZURU ISHIKAWA (Large Project Leader, LPL) เป็นผู้นำโครงการ เขาเริ่มงานกับ Honda ตั้งแต่ปี 1993

ISHIKAWA มีส่วนร่วมในการพัฒนาเฟรมและตัวถังรถแข่ง RC211-V และ CBR1000RR ตังแต่ปี 2002 – 2016 โดยเฉพาะ RC213-V ใหม่
เขายังเป็น LPL ให้กับ CBR1000RR ตั้งแต่ปี 2012-2017 อีกด้วย

แน่นอน เขาคุม LPL ของ CB150R ใหม่นี้

Honda-CB150R-EXMOTION-Color-List
มี 4 สีให้เลือก
CB150R Exclusive press test riding_Page_46
ชุดแต่ง HRC ที่สามารถซื้อใส่ได้ แบบที่ 1
CB150R Exclusive press test riding_Page_45
ชุดแต่ง HRC ที่สามารถซื้อใส่ได้ แบบที่ 2
cb150r-exclusive-press-test-riding_page_44-e1505183433866.jpg
ชุดแต่ง HRC ที่สามารถซื้อใส่ได้ แบบที่ 3

DESIGN CONCEPT
“สไตล์ที่โดดเด่น ไม่ซ้าใคร”
“เปลี่ยนการเดินทางธรรมดาให้เป็นความสนุก”
“อุปกรณ์จัดเต็มระดับ big bike”
“สนุกไปกับแนวทางการแต่งรถที่หลากหลาย”

FRAME

เทคโนโลยีเดียวกับการออกแบบรถแข่งโมโตจีพี รวมมวลมาไว้ที่จุดศูนย์ถ่วง สามารถลดแรงที่ส่งมาถึงเฟรมหลักได้ ให้การควบคุมที่เป็นอิสระมากขึ้น สามารถลดพื้นผิวที่จะต้องใช้รองรับแรงจากภายนอกได้ มีให้จุดศูนย์กลางการบิดอยู่ตำ่ลง ซึ่งจะทำให้พื้นผิวสัมผัสมีขนาดน้อยลงและการควบคุมรถมีความมั่นคงมากขึ้น รวมน้ำหนักไว้ที่จุดศูนย์กลางตัวรถตรงตาแหน่งศรีษะผู้ขับขี่
ทำให้ง่ายในการควบคุมรถ และรัศมีวงเลี้ยวแคบที่สุด 2.2 เมตร

สวิงอาร์มใหม่ดีไซน์ Big Bike
ครั้งแรกที่ใช้เหล็กมวลเบา ทาให้น้าหนักเบา แข็งแรง

เครื่องยนต์ กาลังอัดสูงที่สุดในคลาส 150CC
Liquid-cooled 150 cc DOHC 4 valve 1-cylinder แยกไอดี – ไอเสีย
แรงม้าสูงสุดที่ 9,500 รอบ/นาที

•ฝาสูบใหม่ อัตราส่วนการอัด 11.3:1 ดีไซน์ห้องเผาไหม้ใหม่ อัตราส่วนการอัดสูงที่สุดในรถสปอร์ตขนาด 150 ซีซี เทียบเท่า CBR650F

•กระเดื่องวาล์วใหม่ แบบโรลเลอร์ยูนิตแคม ลดแรงเสียดทาน ไม่กินแรงเครื่อง แรง อัตราเร่งดี ใช้ในรถรุ่นใหญ่อย่าง VFR1200, CBR500 Series

•เสื้อสูบ ผิวขรุขระ เคลือบสารโมลิดินั่ม เพิ่มพื้นผิวภายนอกให้กับเสื้อสูบให้สัมผัสกันมากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ลดการขยายตัวของลูกสูบและแหวนลูกสูบ ส่งผลให้ลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์หมุนคล่อง รีดแรงม้าได้เต็มที่ทุกช่วงความเร็ว

•ลูกสูบใหม่ เคลือบโมลิบดีนั่ม ลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์หมุนคล่อง ไม่กินแรงเครื่องยนต์ เทคโนโลยีเดียวกับ NC750

•เพลาข้อเหวี่ยงใหม่ ระยะชักเพิ่มขึ้นจาก 47.2 mm ➔ 57.843 mm ให้แรงบิดดีตั้งแต่รอบต่าจนถึงรอบสูง ขี่สนุก ขี่มัน

•ผ้าคลัทช์ใหม่ เพิ่มพื้นที่ผิว สัมผัสแผ่นคลัทช์ใหม่ 11 %

•อัตราทดขั้นสุดท้ายใหม่ 47/15

21556268_10214459372857651_1970034718_o

21585926_10207758602841858_1755330233_o
ไฟหน้าดูดี

HIGHLIGHT กับของที่ให้มา เรียกว่าสเปคเทพเลยก็ว่าได้
1. โช้กอัพ อัพไซด์ดาวนด์ 41 มิลลิเมตร ➔ นุ่มนวล ทรงตัวดี ขนาดใหญ่ที่สุดในรถสปอร์ตขนาด 150 ซีซี ขนาดเท่ารถ Big Bike สไตล์แอดเวนเจอร์สายลุย X-ADV750 สมบุกสมบัน รับแรงกระแทกได้ดี
ทรงตัวดีทุกสภาพการขับขี่ แข็งแรงสมบุกสมบัน
2. เบรค: ครั้งแรกของรถสปอร์ท 150 ซีซี คาล์ลิปเปอร์เบรกแบบ 4 พอต จานเบรกแบบลอยตัว ขนาด 296 มม.เทคโนโลยีสนามแข่งแบบเดียวกับ Africa Twin ABS + G Sensor ➔ เทคโนโลยีระบบเบรกความปลอดภัยสูงสุดจากรถ Big Bike CBR1000RR
•ABS เบรกล้อใม่ล๊อค
•G- sensor เบรกกะทันแล้วท้ายไม่ยก
•G- sensor เบรกกะทันหันแล้วท้ายไม่ปัด
3. Fat Handlebar ➔ แฮนด์อ้วนแบบ Big Bike สไตล์แอดเวนเจอร์สายลุยอย่าง Africa Twin และ X-ADV750
4. เกียร์โยงแบบ Pillow Ball
5. พักเท้าหลังอลูมิเนียม แบบเดียวกับ CBR1000RR

6. New Full LCD Multifunction Meter
เรือนไมล์ LCD พร้อมฟังก์ชั่นจัดเต็ม
•ไฟเตือนการเปลี่ยนกียร์ Shift Lighter
•ไฟบอกตาแหน่งเกียร์ทุกเกียร์ N-1-2-3-4-5-6
•โหมดนาฬิกาจับเวลาในขณะเดินทาง ใน Trip A , Trip B
•มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แสดงค่าแบบหน่วงค่ารอบสูงสุด Peak Hold
•มาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แสดงค่าแบบมาตรฐาน
•หลอดไฟเตือนระดับน้ามันเชื้อเพลิงต่า
•มาตรวัดความเร็วเฉลี่ย
•มาตรวัดอัตราการกินน้ามันฯแบบเรียวไทม์
•มาตรวัดการกินน้ามันฯแบบเฉลี่ย
•มาตรวัดการใช้น้ามันฯไปแล้ว •โหมดการปรับตั้งค่าความสว่างของหน้าปัดเรือนไมล์ ได้ 5 ระดับ
•มาตรวัดความเร็ว หน่วยกิโลเมตร/ชั่วโมง Km/h
•มาตรวัดระยะทางรวม TOTAL , Trip A , Trip B
•นาฬิกาบอกเวลาแบบดิจิตรอล (12 AM , PM )
•มาตรวัดระดับน้ามันเชื้อเพลิง

21684663_10207758602921860_212575686_o

ยางหลัง
ยางเรเดียลเสริมใยเหล็ก ➔ ครั้งแรกในรถขนาด 150 ซีซี ที่ใช้ยางเรเดียลเสริมใยเหล็กแบบเดียวกับ Big Bike ยางหลังขนาดใหญ่ 150 มม. ใหญ่ที่สุดในรถขนาด 150 ซีซี

ขออภัยที่ต้องคัดลอกมาจากไฟล PDF ที่พวกเรานั่งฟังกันในห้องประชุมระหว่างการแนะนำข้อมูลการออกแบบซึ่งเราเห็นว่ามันน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับของติดรถที่ให้มา อีกทั้งของแต่งจาก HRC หลายสิบรายการให้เลือกทำรถแนวตัวเอง (ได้ข่าวว่า K Speed เอาไปหั่นแล้ว)

ฟีลลิ่งในการขับขี่นั้นบอกได้ว่า ชัดเจนและดีทีเดียว
เราทดสอบกัน 3 ด่าน
1. High Speed ทั้งทางตรงและโค้งเป็นทางรูปวงรี เข้าโค้งที่ 120 กม/ชม ไม่มีอาการ
2. ออกตัวแรงๆ และเบรคหนักๆ ไม่มีอาการ
3. ขับขี่บนทางคดเคี้ยวและแคบ ไม่มีอาการ

21640461_10207758602881859_1648027892_o
Top Speed ทำได้ 135 กม/ชม

สรุป
– ความแรงของเครื่องยนต์นั้นแรงกว่าเดิมแน่นอน แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมาก น่าจะแลกกับความนุ่มนวลที่ยังคงต้องมีเอาไว้ใช้งานจริง
– ท่านั่งมันอาจจะชิดๆ หน่อย แต่ลองปรับจูนสักพักก็หาตำแหน่งที่ลงตัวของตนเองกับรถได้
– มี 6 เกียร์ เกียร์ทำงานดี กระชับ เกียร์หนึ่งไม่สั้นมาก สอง สาม มี ทอร์คเยอะ ห้า หก จะเรื่มขึ้นช้าลง
– ความเร็วสูงสุดทำได้ 135 กม/ชม ค่อนข้างนิ่ง รถไม่มีอาการแกว่ง รู้สึกปลอดภัย
– ช่วงลางบอกได้คำเดียว ดีเลิศ
– ด้วยราคาที่สูงกว่าคนอื่นในคลาสเดียวกันประมาณ 1-2 หมื่นบาท ก็คงต้องบอกว่าคุ้มค่ากับของที่ให้มา
– หน้าตาดูดี พรีเมี่ยมที่สุดนคลาส 150CC ตอนนี้ ประเทศเพื่อนบ้านกำลังดิ้นเพราะอยากได้ แต่น่าจะแห้วไปก่อน เพราะเขาทำมาให้คนไทย

*** การออกแบบรถที่ใส่สเปคดีๆ มาให้ลูกค้านั้น ขอบอกว่าไม่จำเป็นต้องเน้นคนขี่เก่ง เพราะมือใหม่ๆ นี่แหละที่ต้องทำให้เขาก่อน เพราะหากรถควบคุมง่าย ช่วงล่างดี เครื่องดี ทุกอย่างดี มือให่ก็คุมรถได้ไม่พาตัวเองไปอยู่ใรที่คับขันเพราะรถเสียอาการ”***

21616618_10207758602961861_541049900_o
Honda บอกว่า CB150R Exmotion โมเดลนี้ ดีที่สุดในคลาส

WORDS: CAP ‘P’

PHOTOS: PINYO JANPETCH & COURTESY OF AP HONDA